"ภราดร"ใช้แมตช์ฮ่องกงตัดสินคืนคอร์ต

ยอมรับยังไม่ฟิตแถมแบ่งเวลาสอนเยาวชน

ตามที่ ภราดร ศรีชาพันธุ์ อดีตนักเทนนิสมือ 9 ของโลก จะกลับมาลงสนามอีกครั้งในปีหน้า โดยจะประเดิมหวดรายการแรกในเทนนิสนัดพิเศษ "ฮ่องกง เทนนิส คลาสสิค" ที่ฮ่องกง ระหว่างวันที่ 6-9 มกราคมนั้น ภราดรกล่าวว่า ยอมรับว่าสภาพร่างกายยังฟิตไม่เต็มที่ และยังไม่สามารถฟันธงได้ว่า หลังจากแข่งขันที่ฮ่องกงแล้ว จะลงสนามรายการอาชีพอย่างเป็นทางการรายการใด
"บอลจะใช้แมตช์ที่ฮ่องกงเป็นตัวตัดสินว่า จะกลับมาลงแข่งขันเทนนิสอาชีพอย่างจริงจังรายการใดเป็นรายการแรก ยอมรับว่า ขณะนี้ร่างกายยังไม่พร้อมเท่าไหร่ แต่ยืนยันว่า จะกลับมาเทนนิสอาชีพอีกครั้งแน่นอน"

ภราดรกล่าวต่อว่า ขณะนี้ตนได้ตกลงรับงานช่วยลอนเทนนิสสมาคมแห่งประเทศไทยฯในการพัฒนานักเทนนิสเยาวชนแล้ว ซึ่งจะทำหน้าที่วางแผนการฝึกซ้อมให้กับนักเทนนิสเยาวชน ไม่ใช่เป็นการลงสนามสอนนักเทนนิสในฐานะโค้ช โดยจะเข้าไปทำงานแบบไม่เต็มเวลา

"งานนี้ไม่ส่งผลกระทบต่อการฝึกซ้อมและการกลับมาเล่นเทนนิสอาชีพของบอล เพราะเป็นการทำงานแบบไม่เต็มเวลา บอลแยกแยะและแบ่งงานทั้งสองส่วนได้อย่างลงตัวไม่มีปัญหา" ภราดรกล่าว

รายงานข่าวจากลอนเทนนิสฯแจ้งว่า ภราดรรับปากในการเข้ามาช่วยลอนเทนนิสฯตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนนี้เป็นต้นไป โดยจะมาวางแผนการฝึกซ้อมให้กับนักเทนนิสเยาวชนในโครงการของลอนเทนนิสฯ แต่อย่างไรก็ตาม ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ภราดรยังไม่ได้เข้ามาเริ่มงานแต่อย่างใด

ด้านดนัย อุดมโชค นักหวดชายหมายเลขหนึ่งของไทย กล่าวว่า แม้ว่าจะมีอาการบาดเจ็บที่ไหล่และแพทย์แนะนำให้พักการฝึกซ้อมและแข่งขันเป็นเวลา 3-6 สัปดาห์ก็ตาม แต่ตนได้ขออนุญาตแพทย์เดินทางไปแข่งขันเทนนิสทีมผสม "ฮอปแมนคัพ" โซนเอเชีย-โอเชียเนีย ที่ประเทศคาซักสถาน ระหว่างวันที่ 11-14 พฤศจิกายนนี้ ร่วมกับแทมมารีน ธนสุกาญจน์ เนื่องจากได้ยืนยันกับฝ่ายจัดการแข่งขันไปแล้ว อีกทั้งรายการนี้ เป็นรายการแข่งขันที่ไม่มีคะแนนสะสมอันดับโลก ทำให้ลงเล่นอย่างไม่กดดัน หากเจ็บ ไม่ไหวก็จะถอนตัว และหลังจากเสร็จรายการนี้แล้วก็จะพักให้หายเจ็บก่อนลงหวดซีเกมส์ ครั้งที่ 25 ที่ประเทศลาว ระหว่างวันที่ 9-18 ธันวาคม

แทมมารีน ธนสุกาญจน์ นักเทนนิสสาวหมายเลขหนึ่งของไทย กล่าวว่า หลังจากจบการแข่งขันเทนนิส "ฮอปแมนคัพ" แล้ว ตนจะเดินทางไปแข่งขันเทนนิสอาชีพ ระดับชาลเลนเจอร์ ชิงเงินรางวัล 50,000 เหรียญสหรัฐ ที่ประเทศอินเดีย ในสัปดาห์ถัดไป จากนั้นจะไปแข่งขันรายการชิงเงินรางวัล 75,000 เหรียญสหรัฐ ที่ประเทศญี่ปุ่น เพื่อเก็บคะแนนสะสมอันดับโลกเป็น 2 รายการสุดท้ายของปี ทั้งนี้ เพื่อลุ้นทำอันดับโลกให้อยู่ 1-105 ของโลก ซึ่งจะทำให้ได้สิทธิเข้าไปเล่นในรอบเมนดรอว์รายการแกรนด์สแลมแรกของปี "ออสเตรเลียน โอเพ่น" ที่ประเทศออสเตรเลีย ในเดือนมกราคมปีหน้าต่อไป